หลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสถานะความสัมพันธกับแฟนหนุ่ม ว่ายังคลุมเครืออยู่ ต่อมาดาว พิมพ์ทอง ก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านเพจ วันบันเทิง ว่าเลิกกับ พอร์ช ศรัณย์ แล้วและยอมรับว่ามีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็มีภาพหลุด ที่หนุ่มพอร์ชเฟซไทม์กับสาวปริศนาคนหนึ่งอยู่ ทำให้หลายคนสงสัยว่า สาวคนนี้คือมีที่ 3 หรือเปล่า?
ล่าสุดวันนี้ (1 พ.ย.) พอร์ชก็ได้ออกมาชี้แจงถึงความสัมพันธ์กับดาว
รวมถึงประเด็นเฟสไทม์กับสาวด้วย พอชบอกว่า ดาวเป็นคนบอกเลิก ถามว่าคือเลิกกันแล้วจริงๆ ใช่มั้ย ณ ตอนนี้คือเลิกกัน ตามที่เขาพูดเลย แต่เรื่องแบบนี้ผมว่าต้องใช้เวลานิดนึง ยังตอบอะไรมากไม่ได้ คนมันเพิ่งเลิกกัน ยังไม่อยากพูดอะไรเยอะ เพราะอยากให้คำพูดทุกคำ สุดท้ายแล้วมันมีความหมายที่สุด ขอใช้เวลาก่อน สำหรับผมมองว่า คนเลิกกันต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพัก ก่อนที่จะพูดอะไร รวมถึงถ้าจะหากพูดอะไรก็อยากให้ชัวร์ก่อน ก่อนที่จะตอบคำถามทุกคำถาม
คือยังคุยกันได้ ยังคุยไลน์กันอยู่ ล่าสุดก็ได้คุยกัน ส่วนโอกาสจะกลับมารีเทิร์นนั้น ผมยังตอบไม่ได้ อย่างที่บอกว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่ได้มีอะไรเลย เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน รู้จักกัน แต่ไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัว เรื่องของเรื่องคือ ผมเล่นเฟซไทม์กับเพื่อนอยู่ แล้วผู้หญิงคนนี้ก็โผล่หน้าเข้ามาทัก แค่นั้นเลย แต่ที่งงคือจะแคปภาพไว้ทำไม ภาพก็ดันมาหลุดในจังหวะนี้พอดี แต่เท่าที่ทราบเหมือนทางแฟนของผู้หญิงออกมาขอโทษแล้ว
วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เวียร์ ศุกลวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องที่เคยไปออกอีเวนต์ให้กับ แม่มณี หรือ วันทนีย์ ทิพย์ประเวช ที่มีคดีแชร์ออมเงิน และทางการออกหมายจับอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งพูดถึงกระแสหนังเรื่องดิว ไปด้วยกันนะ ที่ดีมากๆ จนเจ้าตัวปลื้ม
จริงๆ ผมก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรอยู่แล้ว ก็ทำงานที่ได้รับมอบหมายมาปกติ ข่าวที่เกิดขึ้นเราก็ตกใจเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยก็คอยติดตามเรื่อยๆ ว่าสุดท้ายเรื่องราวมันจะจบยังไง เราก็คนนอก ก็ไม่อ่ะ ผมว่ามันก็ต้องมีการจัดการอะไร จนสุดท้ายก็ต้องจบด้วยดีแหละ พยายามให้เรื่องราวจบแบบฟีลกู๊ด
ความจริงแล้วในส่วนที่เรารับงานมาตั้งแต่งานบันเทิงนะ ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาและก็ได้รับเงิน ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์หมด แล้วก็ดูจากเนื้องานที่เราทำ มันก็เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจดี ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้แบล็คกราวน์ว่าแต่ละคนทำธุรกิจอะไร ตรงนี้เราควบคุมไม่ได้ ก็หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแค่นั้นเอง เราก็ไม่ได้คิดว่าพลาดหรือว่าอะไร เพราะเราทำงานกับเขาทุกอย่างก็จบโอเค เราก็ทำงานอย่างเต็มที่เหมือนเป็นธุรกิจ ทำงานเราก็ได้รับค่าตัวตามนั้น
ผมว่ามันอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ด้วยความที่เราเป็นดารามีชื่อเสียง ใครก็อยากจะเข้ามาเบเนฟิตกับเราอยู่แล้ว ผมว่าเป็นตัวเรามากกว่าที่ต้องคอยระวัง ว่าแบบคนนี้เข้ามา เรามั่นใจได้แค่ไหนว่าเขาเข้ามาในทางที่เป็นประโยชน์ที่ดี หรือไม่ดี เราต้องสแกนเองด้วยตัวเรามากกว่า
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
